ข่าวการศึกษา

สิ่งสำคัญในการทบทวนหนังสือเตรียมตัวสอบรับตรง



ช่วงนี้ฤดูสอบพอดี เลยเขียนบอกเล่าประสบการณ์เผื่อรุ่นต่อไปซะหน่อย คิดว่าเป็นเอนทรี่ที่ ประยุกต์ใช้ได้กับทุกคนที่ต้องสอบแข่งขันมั้ง แต่จะอินสุดถ้าจะสอบเพื่อเรียนศิลปะ ตอนนี้ก็เป็นฤดูกาลของกาสอบรับตรงกันแล้ว น้องม.6 หลายคนก็อาจจะทบทวนเตรียมตัวกันอย่างหนักเลย ตอนนี้เราก็เราเทคนิคดีๆในการทบทวนหนังสือเตรียมตัวสอบรับตรงมาให้ทุกคน เพื่อจะเป็นประโยชน์เล็กๆน้อยๆ

howto1-2
คือว่าแต่ละคนก็ย่อมไม่เหมือนกันใช่มะ ดังนั้นบอกไว้เลยว่าการประสบความสำเร็จนั้นไม่มีสูตรตายตัว ดังนั้นการ รู้จักตัวเองให้ดีจะช่วยให้เราวางแผนสิ่งต่างๆได้ถูกจุดถูกที่และเหมาะสมกับ ตัวเอง แล้วพอเรามีการวางแผนที่เหมาะกับตัวเราปั๊บ เราเชื่อว่าความเครียดของเราจะน้อยลงไปด้วย :D
อย่างเราเนี่ยเป้าหมายชัดเจนมาตั้งแต่ ม.3 แต่ก็ไปติวได้เป็นวูบๆ เพราะไม่ชอบไปติวต่อเนื่อง (ม.3 4 5 ไม่ได้ติวไปไกลกว่าไล่ค่าน้ำหนักเลยเพราะเริ่มใหม่ตลอด) สุดท้ายก็มาฮึดเอา ทีเดียวตอน 4 เดือนก่อนสอบ อ่านหนังสือและวาดรูปอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดสัปดาห์ก็แบ่งเวลาไปดูหนังเที่ยว กลางคืนได้ตามปกติ (เข้าข่าย work hard play hard)
เอาเป็นว่า ถามตัวเองดูว่าเราเป็นยังไง เราเหมาะกับการเรียนรู้ในรูปแบบไหน เราถนัดวิชาอะไรบ้าง เราอ่อนวิชาอะไร เราชอบเรื่อยๆระยะยาวหรือจัดหนักในระยะสั้น เรามีพื้นฐานมาก หรือไม่มีพื้นฐานเลย เราอ่านเองได้หรือต้องมีคนสอน
ลองออกแบบเส้นทางการเดินของเราดู สิ่งสำคัญคือการวางแผนและบริหารเวลาจ้ะ
howto2-1
เจอมาหลายคนที่ชอบคิดว่า “ทำไม่ได้หรอก ทิิ้งแม่งเลยดีกว่า” “เหี้ยอะไรไม่รู้กูเรียนไม่รู้เรื่อง” เราก็เคยคิดยังงั้นเหมือนกันแหละ แต่พอไปฝรั่งเศสแล้วถึงได้รู้ว่า “เรียนไม่รู้เรื่องของจริง” มันเป็นยังไง!
เชื่อเถอะว่า ตราบใดที่ยังเรียนเป็นภาษาไทย ไม่มีทางที่จะเรียนไม่รู้เรื่องแน่นอน เราเป็นคนนึงที่แกรมม่าอังกฤษห่วยลาก ไส้ โดดคณิตตลอดปี วิทย์ทำได้แค่ชีวะ (ได้คณิตกับวิทย์ 1.5 กับ 2) แต่ถ้าเราไม่เอาหนังสือแกรมม่ามาอ่านแล้วพยายามทำแบบฝึกหัด เราก็จะไม่มีทางเก่งขึ้น หรือถ้าเราไม่พยายามอ่านหนังสือวิทย์พื้นฐาน ไม่พยายามทำความเข้าใจคณิต ตอนไปสอบก็อาจเจอปรากฏการณ์ “ทิ้งดิ่ง” แทนการ “พยายามคิด” ก็เป็นได้
ลองถามตัวเองอีกทีว่าเรียนไม่รู้เรื่องเพราะอะไรแล้วลองแก้ไขดู อย่างน้อยหนึ่งก็ดีกว่าศูนย์นะ จะบอกให้
howto3-1
ระบบการศึกษามันกากจริงน่ะใช่ แต่เคยรู้สึกกันมั้ยว่าเราก็ไม่เคยโทษตัวเองเหมือนกัน? คุณเป็นคนหนึ่งมั้ย ที่ทำรายงานด้วยการก๊อบวาง ทำให้หนาๆเข้าไว้ แต่ไม่เคยอ่ายรายงานก่อนส่ง คุณเป็นคนหนึ่งมั้ยที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ครูสอน แต่ก็เอาแต่บ่นให้เพื่อนฟัง และไม่เคยยกมือถามครู ?คุณเป็นคนนึงมั้ยที่บ่นเรื่องเรียนพิเศษเยอะเกินความจำเป็น แต่ก็ยอมเรียนไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะเข้าคณะอะไร?
มันเหมือนกับว่า ทัั้งๆที่รู้ว่าเรือมันใกล้ล่ม เราก็ยังคงนั่งและเอาแต่บ่นอยู่ในนั้น ! ถ้า “ระบบ” ให้สิ่งที่เราต้องการไม่ได้ ทำไม “เรา”ไม่ค้นหาสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง ? หรือถ้าระบบ “ยัดเยียด” ในสิ่งที่มากเกินไป รู้ไหมว่าเราก็เลือก “กรอง” เอาเฉพาะสิ่งที่ต้องการได้เหมือนกัน
พึ่งตัวเองกันมั่งก็ได้
howto4-1
สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่า ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ผลคือได้คือสิ่งที่เหมาะกับตัวเราในขณะนั้น เต่อให้เราไม่ติดมหาลัยที่วาด ฝันไว้ ก็แปลว่าที่ที่เราคิดว่าใช่ก็คงจะไม่เหมาะกับเรา พอประตูหนึ่งปิด ยังมีประตูอีกเป็นร้อยที่เปิด เส้นทางชีวิตของแต่ละคนยังมีทางเลือกอีกตั้งมากมาย
ท้ายที่สุกแล้วก็อยากให้น้องทุกคนชาว lessons.in.th พยายาม เข้านะและอย่าพึ่งท้อกับการทบทวนหนังสือเพราะการทบทวนใช้ระยะเวลาไม่เยอะมาก หลอก เสียสละเวลาเล่นออกมาเพียงนิดหน่อยอาจจะได้ประสบความสำเร็จสูงของเราตามเป้า หมายได้เลยนะ อย่าลืมนะพยายามเข้านะทุกคนวัยมันส์
ขอขอบคุณเนื้อหา
http://www.lessons.in.th/2013/37





เผยโฉม รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2554  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่
พระ บาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 5 สิงหาคม พุทธศักราช 2554 แล้ว นั้นบัดนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบไปแล้ว
โดยในรัฐบาล นายกหญิง คนแรกของประเทศไทย ได้แต่ตั้งให้
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุลดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นางบุญรื่น ศรีธเรศ ดำรงตำแหน่ง รมช.ศธ.
 และนายสุรพงษ์  อึ้งอัมพรวิไล ดำรงตำแหน่ง รมช.ศธ. 



ในฐานะคนในแวดวงการศึกษาเรามาทำความรู้จักกับนายวรวัจน์   เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  และผู้ช่วยคนใหม่กันดูนะค่ะ

 UploadImage
นายวรวัจน์   เอื้ออภิญญกุล
ประวัติส่วนตัว  
เกิดวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2502  มีภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดแพร่

ประวัติการศึกษา
ปริญญาโท :  รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ปริญญาตรี : วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ประวัติการทำงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (9 ส.ค.2554 - ปัจจุบัน)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (24 ก.ย.2551 - 19 ธ.ค.2551)
ประธานคณะอนุกรรมการธิการพิจารณางบประมาณด้านการฝึกอบรมสัมมนาประชาสัมพันธ์,
ค่าจ้างที่ปรึกษาการวิจัย และถ่ายทอดเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
ต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2549 ของสภาผู้แทนราษฎร
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม
เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย


UploadImage                 UploadImage
นางบุญรื่น ศรีธเรศ ดำรงตำแหน่ง รมช.ศธ.      นายสุรพงษ์  อึ้งอัมพรวิไล ดำรงตำแหน่ง รมช.ศธ. 

เราคงต้องฝากความหวัง การศึกษาไทยไว้กับรัฐมนตรีคนใหม่ กับผู้ช่วยทั้งสอง และคงต้องติดตามความคืบหน้า นโยบายด้านการศึกษาจากรัฐบาลชุดนี้  กันต่อไป  ทิศทางอนาคตการศึกษาไทย จะเป็นอย่างไร ศูนย์ข่าวการศึกษาไทย จะติดตามและนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องนะค่ะ
 






เชิญร่วมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ปี 54 ที่บูธอพวช.
มาขี่ไม้กวาดอย่างแฮรี่ พอตเตอร์ ที่บูธอพวช.
ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ปี 54

UploadImage

         องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ชวนน้องๆ มาเป็นสมาชิกแฮรี่ พอตเตอร์ ขี่ไม้กวาดเหินฟ้าท่องโลกวิทยาศาสตร์ที่บูธ นิทรรศการภาพสะท้อน (Reflection Exhibition) นิทรรศการที่ใช้ กระจก เป็นเนื้อหาและเครื่องมือหลัก ในการนำเสนอในมุกของภาพสะท้อนที่ปรากฎจากกระจกในรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีความรู้เสริมอื่นๆ ให้น้องๆ ได้เรียนรู้เรื่อง ได้แก่ หลักการพื้นฐานของแสง การสะท้อนของภาพและแสดง ประวัติ ขั้นตอนการผลิต และพัฒนาการของกระจกที่เราใช้ส่องอยู่ทุกวัน และมาดูกล้องไคโรสโคปยักษ์ที่ใหญ่กว่าขนาดปกติ ถึง 42 เท่า พร้อมกิจกรรมต่างๆ กันที่บูธนิทรรศการภาพสะท้อน (ReflectionExhibition) ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2554 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 21 สิงหาคม 2554 (ยกเว้น 9 สิงหาคม 2554) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมไบเทค บางนา

         นิทรรศการภาพสะท้อน ทำให้น้องๆ ได้รู้จักและเข้าใจว่าภาพที่เห็นเป็นภาพลวงตาหรือวิทยาศาสตร์ และทำไมเวลาส่องกระจกจึงเห็นภาพตัวเราอยู่ภายในนั้น หรือทำไมภาพตัวเราที่เห็นในกระจกจึงมีรูปร่างแปลกๆ และขนาดแตกต่างไป อพวช. จึงนำความรู้เรื่องของแสง และการสะท้อนแสงมาให้น้องๆ ได้เรียนรู้สัมผัส ลงมือปฎิบัติจริง และผสมผสานความสนุกสนาน  ผ่านการแสดงและกิจกรรมภายในนิทรรศการหลัก ๆ 3 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนแรก แนะนำความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแสง การสะท้อนของแสงที่ อธิบายว่าเราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร และจุดกำเนิดกับการค้นพบกระจกครั้งแรกของโลกโดยบังเอิญโดยนักประวัติศาสตร์ ชาวโรมันเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ส่วนที่สอง ปรากฎการณ์จากแสงสะท้อน ผ่านอุปกรณ์การทดลองต่างๆ อาทิ กระจกเงาสร้างภาพที่เกิดจาการสะท้อนกลับไปมาของกระจกเงาสองบาน, กล้องสลับลายไคโรสโคปขนาดยักษ์ ที่จะสะท้อนเงาของน้องๆ กลับไปมาแบบไม่รู้จบและเห็นเป็นหลายๆ ภาพ, แท่นกระจกไม่รู้จบ เหมือนกระจกเวทย์มนต์ที่ทำให้เกิดภาพสะท้อนที่ให้ความรู้สึกว่ากระจกมีความ ลึกจนมองไม่เห็นปลายทาง, ส่วนน้องๆ ที่อยากลองเป็นพ่อมดแม่มดขี่ไม้กวาดบินได้แบบแฮรี่ พอตเตอร์ ต้องไม่พลาดกิจกรรม ไม้กวาดเหินเวหา โดยนั่งบนไม้กวาดที่ตั้งอยู่บนแท่นกระจกเงา แล้วยกขาด้านหน้ากระจกให้ลอยขึ้นพร้อมขยับไปมา กระจกเงาจะสะท้อนภาพกลับซ้ายเป็นขวา เงาของร่างกายอีกซีกหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าจะถูกสะท้อนภาพด้วยกระจกที่ตั้งฉาก อีกอัน ภาพที่ปรากฎจึงเหมือนกับว่าน้องๆ กำลังล่องลอยอยู่บนอากาศด้วยไม้กวาดเหิรเวหา, อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของภาพสะท้อนกับกิจกรรมที่ออกแนวสยองขวัญ คือ ศีรษะมายา ที่จะทำให้น้องๆ เห็นภาพของห้องสี่เหลี่ยมและมีเฉพาะศีรษะของเราลอยอยู่ในห้องนั้น ซึ่งเกิดจากกระจกเงาสองบานที่วางตั้งฉากสะท้อนฉากผนังเท่าของจริงแต่จะกลับ ซ้ายเป็นขวาซึ่งน่ามาทดลองด้วยตนเอง

         และส่วนที่สาม ความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากแสงสะท้อน ไม่ ว่าจะเป็นภาพสามมิติ กระจกส่องผู้ต้องสงสัย เลนส์ขยาย ภาพลวงตา ใยแก้วนำแสง นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงแสงสะท้อนจากกระจกธรรมชาติที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต อาทิ แสงสีรุ้งที่สะท้อนจากปีกแมลงทับที่มีพื้นผิวไม่เรียบ และมีสันนูนหรือหลุมบนผิวปีก ทำให้เกิดมุมตกกระทบของแสงที่แตกต่างกันสะท้อนออกมาเป็นสีที่หลากหลาย, แสงสีแวววาวจากเปลือกหอยมุก, ปลากัดไทยที่ได้ชื่อว่านักสู้สีรุ้ง ที่จะมีสีสันหลากหลายแตกต่างกันไปบนเกล็ดตัวปลาในขณะที่กำลังพองครีบเพื่อทำ การข่มขู่คู่กัด และสายรุ้งลวงโลกของแสงที่สะท้อนจากเกล็ดบนตัวงูแสงอาทิตย์ เป็นต้น

         เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ของภาพสะท้อน และยังมีอีกมากมายที่รอให้น้องๆ มาร่วมสนุกและพิสูจน์ด้วยตัวเองในนิทรรศการภาพสะท้อน ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2554 ที่เปิดให้เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 6 - 21 สิงหาคม 2554 เวลา 09.00 - 20.00 น. (ยกเว้นวันที่ 9 สิงหาคม) ที่ไบเทค บางนา  และพบกับ 3 พรีเซนเตอร์ของงาน อ๋อม อรรคพันธ์, เก้า จิรายุ และญาญ่า อุรัสยา ได้ภายในงานติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.nsm.or.th/nst2011


สอบถามข้อมูล
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โทร  0-2577-9960
ติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์งาน  องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ      
คุณนภัทร (แอน) 085-512-0589 / คุณสุตานันท์ (กอล์ฟ) 089-499-5531 / คุณฐาปนี (เก๋ง) 085-772

ไม่มีความคิดเห็น: